โธมัส มุลเลอร์ : กองหน้าที่ ศุภชัย ใจเด็ด ควรศึกษา ว่าวิ่งอย่างไรถึงกลายเป็นเวิลด์คลาส

Author Photo
Thomas Müller, Supachai Chaided
Getty

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าทีมชาติไทยของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลายเป็นเป้าวิจารณ์จากคนจำนวนหนึ่งว่าวิ่งน้อยเกินไปในเกมทีมชาติ ทำให้ทำผลงานออกมาได้ไม่ดีพอ

แม้จะมีตัวเลขออกมาช่วยยืนยันแล้วว่า หัวหอกวัย 24 ปี ไม่ได้วิ่งน้อยขนาดนั้น แต่มันก็คงยังหลีกเลี่ยงคำถามที่ตามมาไม่ได้ว่า ศุภชัยอาจจะวิ่งได้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยในลักษณะนี้ตามมา

เราจึงอยากจะขอพาไปเปรียบเทียบกับ โธมัส มุลเลอร์ แนวรุกดีกรีทีมชาติเยอรมันของบาเยิร์น มิวนิค ที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องการวิ่งและหาตำแหน่ง จนทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นเวิลด์คลาสที่มีเกียรติยศมากมายด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นนี้เพียงข้อเดียว

โธมัส มุลเลอร์ มีดีอะไรที่ควรศึกษาในเรื่องการวิ่ง ติดตามได้ที่นี่

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

จุดเริ่มต้นที่ไม่โดดเด่น

โธมัส มุลเลอร์ เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งจากระบบอคาเดมีของบาเยิร์น มิวนิค เขาได้รับการโปรโมทให้เป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ สมัยที่หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามารับตำแหน่งกุนซือในทีมยักษ์ใหญ่แห่งบาวาเรีย

ในช่วงแรกของชีวิตนักฟุตบอล มุลเลอร์ไม่ได้โดดเด่นนักในสายตานักวิจารณ์และแฟนบอล เขาไม่ได้มีทักษะหวือหวา หรือความเร็วที่หาตัวจับยาก หรือการปิดสกอร์ที่เฉียบคมเหมือนเช่นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังคนอื่นๆ มักมีกัน 

ความธรรมดาของโธมัส มุลเลอร์ ถึงขั้นทำให้เขาเคยถูก ดิเอโก มาราโดนา เฮดโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาแกล้งทำเป็นเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กเก็บบอล ตอนที่เจอกันครั้งแรกในห้องแถลงข่าวของเกมกระชับมิตร ซึ่งเป็นเกมประเดิมสนามในนามทีมชาติของมุลเลอร์ และผลลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของอินทรีเหล็กต่อทัพฟ้าขาว 1-0

ในวันดังกล่าว มาราโดนาพูดแบบติดตลกในห้องแถลงข่าวว่า เขาจะไม่ยอมพูดอะไรแม้แต่คำเดียว จนกว่าเจ้าเด็กเก็บบอลคนนี้ (มุลเลอร์) จะออกไปจากห้อง ซึ่งถือเป็นคำปรามาสที่รุนแรงทีเดียว สำหรับกุนซือทีมชาติที่จะพูดถึงนักเตะฝั่งตรงข้ามสักคน

อย่างไรก็ดี เด็กเก็บบอลคนนั้นก็พิสูจน์ให้เห็นในสนามได้ภายในเวลาอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ว่าเขามีดีอะไรที่จะทำให้ก้าวขึ้นมายืนเป็นแนวรุกแถวหน้าของวงการฟุตบอล

Getty Images

พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน

หลังความทรงจำจากเกมประเดิมสนามทีมชาติที่น่าเจ็บช้ำ มุลเลอร์ถูกเรียกตัวติดทีมเยอร์มันในฟุตบอลโลก 2010 และกลายเป็นเป้าสนใจในเวทีฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที ด้วยการลงสนามเป็นตัวจริงในเกมแรก และยิงประตูได้ในเกมชนะออสเตรเลีย 4-0 เขาเป็นคนทำประตูที่สามให้ทีม และเป็นประตูแรกของมุลเลอร์ในนามทีมชาติ
หัวหอกจากเสือใต้กลายมาเป็นหนึ่งในดาวเด่นของฟุตบอลโลกครั้งนั้นเมื่อเริ่มต้นรอบน็อคเอาท์ มุลเลอร์ยิงได้ 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมถล่มอังกฤษ 4-1 ก่อนจะมาแก้แค้นมาราโดนาด้วยประตูในนาทีที่ 3 ของการแข่งขัน ซึ่งลงเอยด้วยชัยชนะของฝั่งเยอรมัน 4-0 และเขี่ยอาร์เจนตินาตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์ที่ขาดลอย

แม้มุลเลอร์จะโดนใบเหลืองในนัดดังกล่าว ทำให้เขาไม่ได้ลงสนามในเกมแพ้สเปนรอบรองชนะเลิศ จนส่งผลให้เยอรมันทำได้เพียงคว้าอันดับสามมาครองในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ แต่ด้วยจำนวน 5 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ ทำให้เขาได้รางวัลรองเท้าทองคำมาครอง รวมทั้งยังได้รับการโหวตให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

หลังจากแจ้งเกิดเต็มตัวบนเวทีฟุตบอลระดับโลก มุลเลอร์ก็กลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการฟุตบอลเยอรมันอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยผลงาน 45 ประตู จาก 126 นัดในนามทีมชาติ รวมถึงเกียรติประวัติมากมาย อาทิ แชมป์ฟุตบอลโลก 2014, แชมป์บุนเดสลีกา 12 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และเดเอฟเบ โพคาล อีก 6 สมัย

แล้วอะไรคืออาวุธที่เด็กชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีทักษะ, ความเร็ว หรือการยิงที่เฉียบคมเหมือนอย่างใครเขา ใช้เพื่อต่อกรกับบรรดาผู้เล่นมากพรสวรรค์ทั้งหลาย จนกลายเป็นตำนานคนหนึ่งของวงการฟุตบอลได้อย่างทุกวันนี้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

Raumdeuter ตำแหน่งที่ไม่มีใครเหมือน

ตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอล โธมัส มุลเลอร์ ได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องการยืนตำแหน่ง และการหาโอกาสจู่โจมจุดอ่อนของแนวรับคู่แข่ง เขารับบทบาทได้หลากหลายในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หน้า กองกลางตัวรุก หรือตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง แต่ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้เล่นในตำแหน่งใด เป้าหมายของเขามีเพียงหนึ่งเดียว คือการเคลื่อนที่ในขณะที่ไม่มีบอล เพื่อหาช่องโหว่ในแนวรับของฝั่งตรงข้ามให้ได้มากที่สุด

Thomas Muller

วิธีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะนี้เอง ทำให้มันกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อเราพูดถึงตำแหน่งที่แท้จริงของโธมัส มุลเลอร์ เขาไม่ใช่ศูนย์หน้า ไม่ใช่หน้าต่ำ ไม่ใช่ปีก และไม่ใช่กองกลางตัวรุก แน่นอนว่าเขาเคยถูกส่งลงสนามเพื่อเล่นในทุกๆ ตำแหน่งที่กล่าวมา แต่เมื่อพูดถึงตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา คงไม่พ้นนิยามที่เขากำหนดด้วยตัวของเขาเองว่า เขาคือ Raumdeuter

“ผมไม่ชอบที่ถูกจัดให้เป็นศูนย์หน้า ผมไม่ได้มองตัวเองเป็นแบบนั้น” มุลเลอร์เคยกล่าวเอาไว้ “ผมชอบจะยืนอยู่บริเวณที่ว่างหลังกองกลางของคู่แข่ง นั่นคือจุดที่ผมจู่โจมคู่แข่งได้มากที่สุด ผมเป็นส่วนผสมระหว่างศูนย์หน้ากับกองกลาง ผมคือ Raumdeuter มันเกี่ยวกับสัญชาตญาณ”

Raumdeuter เป็นภาษาเยอรมันที่แปลออกมาได้ในทำนองว่า นักหาพื้นที่ว่าง ซึ่งมันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ทำยาก คุณสมบัติเรื่องการเคลื่อนที่ของมุลเลอร์ ทำให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าตัวเก่งของบาเยิร์น มิวนิค ในสมัยนั้น ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเล่นง่ายขึ้นมาก

“มันเล่นง่ายขึ้นเวลามีโธมัสอยู่ข้างๆ ผม เขาช่วยผมได้มาก เราเติมเต็มกันและกันได้ดีทีเดียว” เลวานดอฟสกี้กล่าว

“โธมัสมักจะเคลื่อนที่เข้าหาประตูของคู่แข่ง ด้วยการเคลื่อนไหวที่มากมาย เรามักจะมีผู้เล่นในกรอบเขตโทษมากกว่า 1 คน เวลาที่เขาลงเล่น ผมจะมีพื้นที่มากขึ้น และไม่ได้มีคู่แข่ง 2-3 คนประกบผมอยู่ตลอดเวลา”

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

โธมัส มุลเลอร์ ยังเคยพูดเอาไว้ถึงเคล็ดลับในการเป็นนักหาพื้นที่ของเขาอีกด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจังหวะและเวลา รวมถึงมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากทุ่มเทกับการศึกษาเรื่องนี้ให้มากพอ

“กุญแจสำคัญคือเวลาระหว่างคนส่งกับคนที่จะสิ่งเข้าไปในโซนที่ถูกต้อง” มุลเลอร์เคยอธิบายไว้เกี่ยวกับการวิ่งหาตำแหน่งของเขา

“มันมีพื้นที่อันตรายในเกมฟุตบอล ซึ่งถ้าคุณใช้เวลาเพื่อศึกษามัน คุณจะได้รู้ว่าอะไรที่ทำอันตรายกับเกมรับของคู่แข่งได้มากที่สุด ส่วนมากแล้วก็จะเป็นการวิ่งในระหว่างแนวรับ ขอแค่ถูกเวลาเท่านั้น

“มันเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ดีที่สุดของผมมาโดยตลอด การยืนตำแหน่งในเวลาที่ไม่มีบอลระหว่างแนวรับ และเข้าไปสู่พื้นที่ด้านในบริเวณพื้นที่สุดท้าย มันไม่ได้มีเรื่องลึกลับอะไรในเรื่องนี้”

แต่ถึงอย่างไร การวิ่งก็ยังสำคัญเสมอ

จากทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญในความสำเร็จของมุลเลอร์คือความเข้าใจในเกมที่เหนือกว่าใครๆ เขาเอาชนะทักษะ, ความเร็ว, พละกำลัง และความแข็งแกร่ง ได้ด้วยความคิดและการตัดสินใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี เนื่องจากฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายในการเล่น ปริมาณการวิ่งในสนามจึงยังเป็นเรื่องสำคัญเสมอ

Thomas Muller Germany 2022 111222
Getty Images

นอกจากเรื่องของการยืนและวิ่งแบบถูกที่ถูกเวลา มุลเลอร์ยังเป็นนักเตะที่วิ่งในสนามมากกว่าใครๆ ในช่วงพีคๆ ของชีวิตค้าแข้ง มุลเลอร์วิ่งเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 12 กิโลเมตร ต่อ 90 นาที ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าคนที่วิ่งมากที่สุดในทีมชาติไทยในเกมชนะสิงคโปร์อย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (9.167 กิโลเมตร) อยู่ถึงเกือบ 3 กิโลเมตร

แน่นอน เราคงไม่อาจคาดหวังได้ว่านักเตะทีมชาติไทยจะวิ่งได้มากในระดับเดียวกับผู้เล่นอาชีพระดับท็อปของยุโรป แต่แม้กระทั่งในหมู่นักเตะแถวหน้าด้วยกัน ก็ยังมีอยู่เพียงไม่กี่คนที่วิ่งมากกว่าโธมัส มุลเลอร์ ในสนาม

นั่นคือบทพิสูจน์ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า แม้จะมีความเข้าใจในเกม, มีทักษะในการหาพื้นที่ได้เก่งกว่าใคร แต่สุดท้ายแล้ว เราก็จำเป็นต้องมีแรงจะวิ่ง เพื่อที่จะตอบสนองกับความคิดที่อยู่ในสมองเราให้ได้นั่นเอง

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดกีฬาวันนี้ที่นี่

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

ผู้แต่ง
Kim Junumporn Photo

นักเขียน The Sporting News Thailand